top of page
รูปภาพนักเขียนThe Precious Luxury Home Builder

เทรนด์การออกแบบบ้านปี 2025 กับไอเดียที่ไม่ควรพลาด!!

อัปเดตเมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา

 

ปี 2025 กำลังเปิดประตูสู่การเปลี่ยนแปลงในแนวคิดการออกแบบบ้าน เน้นความทันสมัย ผสานเทคโนโลยีและความยั่งยืน รวมถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างลงตัว มาดูกันว่าจะมีเทรนด์ไหนที่โดดเด่นและน่าสนใจกันบ้าง













ในปี 2025 การออกแบบบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือบ้านรักษ์โลก (Eco-Friendly Homes) กลายเป็นกระแสหลักที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมองหาวิธีการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน เทรนด์นี้ไม่ได้เน้นแค่ลดผลกระทบต่อธรรมชาติ แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย 


องค์ประกอบสำคัญของบ้านรักษ์โลกในปี 2025

1 การใช้พลังงานสะอาด - เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม รวมถึงแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งง่ายขึ้น ช่วยลดค่าไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

2 วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน - การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีผลกระทบต่อธรรมชาติน้อย เช่น ไม้ที่ปลูกทดแทน วัสดุรีไซเคิล และคอนกรีตที่ลดการปล่อยคาร์บอน วัสดุเหล่านี้ยังช่วยลดขยะจากกระบวนการก่อสร้างได้

3 ระบบน้ำที่ยั่งยืน - เน้นการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเก็บน้ำฝนเพื่อใช้ในงานสวน หรือระบบรีไซเคิลน้ำเสียสำหรับใช้ในห้องน้ำ

4 พื้นที่สีเขียวและการปลูกต้นไม้ - การเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอกบ้านช่วยลดความร้อน เพิ่มออกซิเจน ทั้งยังสร้างบรรยากาศที่สดชื่น

5 การออกแบบที่ประหยัดพลังงาน (Energy-Efficient Design) - บ้านรักษ์โลกในปี 2025 จะออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อลดการใช้พลังงาน เช่น การจัดวางหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติ การใช้วัสดุกันความร้อน 

6 การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสิ่งแวดล้อม - เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมช่วยควบคุมพลังงาน เช่น ระบบไฟอัจฉริยะที่ปิดไฟอัตโนมัติ หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการรั่วไหลของน้ำ


ประโยชน์ของบ้านรักษ์โลกในปี 2025

  1. ช่วยลดค่าใช้จ่าย -  การใช้พลังงานและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว

  2. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

  3. เพิ่มคุณภาพชีวิต - บ้านที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและกายที่สมบูรณ์


 

สไตล์มินิมอลในปี 2025 ยังคงครองใจผู้คน โดยได้ปรับให้มีความอบอุ่นเป็นมิตรมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตที่ต้องการความผ่อนคลาย บ้านแบบ Warm Minimalism ไม่ใช่แค่เน้นความเรียบง่าย แต่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นและเชื้อเชิญ ด้วยการใช้โทนสีธรรมชาติ วัสดุจากธรรมชาติ และการจัดพื้นที่ที่สมดุลระหว่างฟังก์ชันพร้อมความสวยงาม







องค์ประกอบสำคัญของสไตล์ Warm Minimalism

1 โทนสีธรรมชาติและอบอุ่น - สีที่ใช้ในสไตล์นี้จะเน้นไปที่โทนธรรมชาติ เช่น ครีม เบจ น้ำตาลอ่อน เทาอ่อน หรือสีไม้ ซึ่งให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น ต้องเลือกสีผนังสีขาวครีมเพื่อสร้างความสว่าง เสริมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนหรือไม้สน ใช้ผ้าและหมอนสีเบจหรือพรมสีเทา


2 การใช้วัสดุจากธรรมชาติ - วัสดุที่ให้สัมผัสอบอุ่น เช่น ไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือหินธรรมชาติ ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติและความผ่อนคลาย วัสดุที่ควรเลือกใช้คือพื้นไม้หรือกระเบื้องที่มีลายไม้ เสริมเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เคลือบสีจนเกินไปให้เห็นพื้นผิวไม้แท้ และตกแต่งด้วยของเซรามิกหรือดินเผา


3 เฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายและฟังก์ชันครบครัน - เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Warm Minimalism เน้นความเรียบง่าย ไร้ความซับซ้อน แต่ตอบโจทย์การใช้งาน เช่น โต๊ะกลางที่มีพื้นที่เก็บของ หรือชั้นวางที่ดีไซน์แบบมัลติฟังก์ชัน เลือกเฟอร์นิเจอร์โซฟาที่มีโครงสร้างเรียบแต่หุ้มด้วยผ้านุ่มสบาย เสริมชั้นวางแบบโปร่งที่ช่วยให้บ้านดูไม่อึดอัด และโต๊ะไม้พร้อมลิ้นชักเก็บของ


4 การจัดแสงที่อบอุ่นและนุ่มนวล - แสงไฟเป็นส่วนสำคัญของสไตล์ Warm Minimalism การเลือกใช้ไฟแบบวอร์มไลท์ (Warm Light) จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ติดตั้งไฟ LED ซ่อนในเฟอร์นิเจอร์หรือเพดาน หรือการเพิ่มแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างบานใหญ่


5 ของตกแต่งน้อยชิ้นแต่มีคุณค่า - บ้านสไตล์มินิมอลเน้นการใช้ของตกแต่งอย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป ของแต่ละชิ้นควรสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านและมีความหมาย ตกแต่งด้วยแจกันเซรามิกทรงเรียบ ภาพวาดสไตล์ Abstract โทนสีธรรมชาติ เสริมหมอนอิงหรือผ้าห่มที่ให้สัมผัสนุ่ม


6 การออกแบบพื้นที่ที่โปร่งโล่ง - บ้านสไตล์นี้มักเน้นความโปร่งสบาย โดยการจัดพื้นที่ให้มีช่องว่างและไม่อัดแน่นจนเกินไปช่วยให้บ้านดูไม่รกและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย จัดพื้นที่ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่จัดวางอย่างเหมาะสม เพิ่มหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ และใช้ประตูบานเลื่อนหรือม่านแทนผนังเพื่อความโปร่งโล่ง


ประโยชน์ของบ้านสไตล์ Warm Minimalism

  1. ช่วยลดความเครียด - บรรยากาศที่อบอุ่นและไม่ซับซ้อนช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย

  2. ใช้งานได้จริง - การออกแบบที่เน้นฟังก์ชันช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้น

  3. ดูแลรักษาง่าย - ของตกแต่งน้อยชิ้นและวัสดุที่ทนทานช่วยลดเวลาในการทำความสะอาด

  4. ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย - เหมาะกับทุกกลุ่มคน ตั้งแต่ครอบครัวที่มีเด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ


 

การออกแบบพื้นที่ในบ้าน ในปี 2025 สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างหลากหลาย (Multi-Functional Spaces) ให้กลายเป็นสิ่งจำเป็นได้ เนื่องจากในยุคที่ผู้คนมองหาความคุ้มค่าและการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เทรนด์นี้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดหรือเจ้าของบ้านที่ต้องการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การทำงานที่บ้าน การออกกำลังกาย ไปจนถึงการพักผ่อน



คุณลักษณะสำคัญของพื้นที่อเนกประสงค์ในปี 2025

1. การออกแบบพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ - พื้นที่อเนกประสงค์มักจะถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนฟังก์ชันได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ เช่น ห้องนั่งเล่นที่สามารถเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศ หรือห้องนอนที่มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย

2. เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน - เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างพื้นที่อเนกประสงค์ เช่น โซฟาที่เปลี่ยนเป็นเตียง โต๊ะที่ปรับระดับได้ หรือชั้นวางของที่มีลิ้นชักเก็บของซ่อนอยู่

3. พื้นที่เก็บของที่ชาญฉลาด - การจัดเก็บของอย่างเป็นระเบียบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพื้นที่อเนกประสงค์ การเพิ่มพื้นที่เก็บของแบบซ่อนช่วยให้พื้นที่ดูโล่งและใช้งานได้ง่าย

4. การใช้องค์ประกอบที่หลากหลายในพื้นที่เดียวกัน - บ้านในปี 2025 มักรวมฟังก์ชันหลายอย่างไว้ในพื้นที่เดียว เช่น พื้นที่ครัวที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่รับแขกที่สามารถใช้เป็นห้องประชุมขนาดเล็กได้

5. เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมการใช้งานพื้นที่ - เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมช่วยให้พื้นที่อเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น เช่น การควบคุมแสง ไฟ และอุณหภูมิผ่านแอปพลิเคชัน หรือการติดตั้งจอโปรเจ็กเตอร์ที่ซ่อนอยู่


ประโยชน์ของพื้นที่อเนกประสงค์

  1. ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด - เหมาะกับบ้านที่มีขนาดเล็กหรือคอนโดที่ต้องการฟังก์ชันครบในพื้นที่จำกัด

  2. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย - เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายวัยหรือคนที่ทำงานจากที่บ้าน

  3. ลดความยุ่งเหยิงในบ้าน - การออกแบบพื้นที่และเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันช่วยให้บ้านดูเรียบร้อย

  4. เพิ่มความยืดหยุ่นในชีวิตประจำวัน - ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการที่เปลี่ยนไป


 

ในปี 2025 แนวคิด Aging-in-Place Design หรือการออกแบบบ้านที่เหมาะสมสำหรับคนทุกช่วงวัย ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและประชากรที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การออกแบบบ้านที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนทุกวัยช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และเป็นอิสระ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยทำงาน หรือวัยเกษียณ


องค์ประกอบสำคัญของการออกแบบ Aging-in-Place Design

1. พื้นที่ที่เข้าถึงง่าย (Accessibility) - การออกแบบพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย ซึ่งเน้นการออกแบบพื้นที่ไม่มีขั้นบันได เช่น ประตูและพื้นทางเข้า ประตูและโถงทางเดินที่กว้างพอสำหรับรถเข็น (อย่างน้อย 90 ซม.) และใช้ประตูบานเลื่อนแทนประตูบานพับเพื่อความสะดวก


2. การลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ - การป้องกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจลื่นล้ม เช่น ห้องน้ำหรือบันได โดยโซลูชันที่ช่วยลดความเสี่ยงคือการติดตั้งราวจับในห้องน้ำและบันได ใช้วัสดุปูพื้นที่กันลื่น เช่น กระเบื้องกันลื่นหรือพรมที่มีแผ่นยึด รวมถึงติดตั้งไฟส่องสว่างอัตโนมัติในทางเดินและห้องน้ำ


3. ห้องนอนและห้องน้ำบนชั้นล่าง - การมีห้องนอนและห้องน้ำในชั้นล่างช่วยลดความจำเป็นในการขึ้นบันได เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว เช่น ห้องนอนที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ ห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้างสำหรับการเคลื่อนตัว และติดตั้งฝักบัวแบบไม่มีธรณี (Walk-In Shower)


4. เฟอร์นิเจอร์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย - เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานง่ายและเหมาะสมกับคนทุกวัยช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น เก้าอี้และเตียงที่มีความสูงพอดีสำหรับลุกนั่งง่าย โต๊ะและชั้นวางที่เข้าถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องก้มมากเกินไป รวมถึงตู้เก็บของที่มีลิ้นชักแบบดึงเลื่อน


5. เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความสะดวก - เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมในปี 2025 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยทุกวัย เช่น ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน หรือการควบคุมอุปกรณ์ผ่านสมาร์ทโฟน โดยฟีเจอร์ที่ควรมีคือระบบไฟอัจฉริยะที่ปรับแสงอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับการล้มและแจ้งเตือน และกล้องวงจรปิดพร้อมเสียงแจ้งเตือนเพื่อดูแลผู้สูงอายุ


6. พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นมิตรกับครอบครัว - การสร้างพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัวแบบเปิดโล่ง ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้อย่างสะดวก โดยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางโดยมีพื้นที่โล่งที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เกะกะ หรือโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่ทุกคนใช้งานร่วมกันได้ รวมถึงการจัดวางที่นั่งให้รองรับคนทุกวัย


7. การเชื่อมต่อกับธรรมชาติ - การออกแบบที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ เช่น มีสวนหรือพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและสุขภาพจิตที่ดี โดยเน้นแนวทางการออกแบบด้วยสวนที่มีทางเดินเรียบและราวจับ ระเบียงหรือชานบ้านที่มีที่นั่งสบาย 


ประโยชน์ของ Aging-in-Place Design

  1. รองรับทุกช่วงวัย - ช่วยให้บ้านเป็นสถานที่ที่ใช้งานได้สะดวกทั้งสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

  2. เพิ่มความปลอดภัย - ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ เช่น การลื่นล้ม

  3. ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว - การออกแบบเพื่อรองรับอนาคตช่วยลดความจำเป็นในการปรับปรุงบ้านภายหลัง

  4. เสริมคุณภาพชีวิต - ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีความเป็นอิสระและมั่นใจในความปลอดภัย


ตัวอย่างการใช้งานจริงในบ้านปี 2025



  • ห้องน้ำอเนกประสงค์ - ห้องน้ำที่ออกแบบให้มีราวจับ ฝักบัวแบบ Walk-In และพื้นกันลื่น


  • มุมพักผ่อนสำหรับผู้สูงอายุ - มีเก้าอี้นั่งสบายและแสงธรรมชาติที่เพียงพอ


  • พื้นที่ครัวสำหรับคนทุกวัย -  เคาน์เตอร์ที่มีความสูงแตกต่างกันสำหรับเด็กและผู้ใหญ่


 

การออกแบบบ้านในปี 2025 เน้นความสมดุลระหว่างฟังก์ชันและความสวยงาม โดยผสานแนวคิดที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่รักษ์โลก พื้นที่ที่ยืดหยุ่น หรือการออกแบบที่เหมาะกับทุกช่วงวัย บ้านเหล่านี้สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่ใส่ใจทั้งตัวเอง ครอบครัว และโลกในอนาคต บ้านที่ดีในปี 2025 ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือที่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตในทุกมิติ 


ซึ่งถ้าหากไม่มีไอเดียในการออกแบบทุกพื้นที่ภายในบ้านให้น่าอยู่อาศัย สามารถให้ทาง The Precious จากประสบการณ์ด้านการให้บริการลูกค้าครบวงจรนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ทั้งในเรื่องของการออกแบบบ้าน เขียนแบบบ้าน ออกแบบภายใน ตกแต่งภายใน ผ่านการแนะนำและบอกต่อความประทับใจจากลูกค้า วันนี้เราเติบโตและพัฒนาองค์กรเพื่อรองรับลูกค้าผู้มีเกียรติและรับสร้างบ้านคุณภาพในระดับสูงต่อไป เราขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกบริษัทรับออกแบบบ้านให้กับลูกค้าทุกท่านค่ะ


 

Where​ Dream come Home.




Youtube : ThePrecious







Line : bdprecious
















ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page