มุมโปรดสำหรับคนรักหนังสือ พร้อมไอเดียการออกแบบห้องสมุดในบ้าน
- The Precious Luxury Home Builder
- 4 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
สำหรับใครที่มีความรักในตัวอักษร หลงใหลกลิ่นกระดาษ และหลงใหลในโลกแห่งจินตนาการผ่านหนังสือ มุมอ่านหนังสือในบ้านอาจไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่เล็กๆ แต่เป็นมุมโปรดที่ให้ความรู้สึกสงบ อบอุ่น และเติมเต็มจิตใจในทุกวัน บทความนี้จะพาคุณไปพบกับไอเดียการออกแบบห้องสมุดในบ้าน ที่ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งาน แต่ยังสะท้อนตัวตนและความสุขของคนรัก
หนังสือได้
จุดเริ่มต้นของ “มุมโปรด”
การออกแบบห้องสมุดในบ้านไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างขวางเสมอไป มุมเล็กๆ ใต้บันได ริมหน้าต่าง หรือบริเวณปลายเตียง ก็สามารถดัดแปลงให้กลายเป็นมุมอ่านหนังสือที่น่าหลงใหลได้ ขึ้นอยู่กับการจัดวางอย่างมีสไตล์และเลือกใช้วัสดุส่งเสริมบรรยากาศการอ่านได้
ไอเดียการออกแบบห้องสมุดในบ้าน
1. กำหนดพื้นที่และการเลือกทำเล
ไม่จำเป็นต้องมีห้องสมุดขนาดใหญ่เสมอไป เพราะคนรักหนังสือบางคนอาจมีหนังสือไม่มาก และต้องการพื้นที่เงียบสงบ การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในบ้าน เช่น มุมที่ไม่ถูกใช้งานบ่อยๆ ใต้บันได ห้องมุมที่มีหน้าต่าง หรือมุมในห้องนอน จะช่วยให้การจัดวางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ห้องสมุดควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเงียบหรือไม่ถูกคนในบ้านเดินผ่านบ่อย เพื่อให้เกิดสมาธิสูงสุดในการอ่านหนังสือ และลดเสียงรบกวน เช่น การใช้ผนังกั้นชั่วคราว หรือวางชั้นหนังสือเพื่อแบ่งโซน
2. การออกแบบชั้นหนังสือ
ควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และเหมาะสมกับสไตล์บ้าน เช่น ไม้จริง ไม้อัดลามิเนต หรือเหล็กทาสี โดยไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ขณะที่เหล็กจะให้ลุคโมเดิร์นทันสมัย
ออกแบบฟังก์ชันช่วงความสูงของชั้นให้สามารถวางหนังสือหลายขนาดได้ รวมถึงช่องสำหรับวางของตกแต่ง เช่น โคมไฟขนาดเล็ก ของสะสม หรือแจกัน
ชั้นหนังสือแบบบิวท์อินติดผนังเต็มพื้นที่ เป็นวิธีที่ช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้มุมอ่านหนังสือดูเป็นระเบียบ มีสไตล์เฉพาะตัวมากขึ้น
3.เลือกใช้โทนสีและวัสดุตกแต่ง
โทนสีผนังและเฟอร์นิเจอร์ เลือกใช้สีโทนอุ่น เช่น สีครีม สีเบจ สีไม้ธรรมชาติ ช่วยให้บรรยากาศในห้องอ่านหนังสือรู้สึกผ่อนคลาย และไม่รบกวนสายตาเวลาจ้องหน้าหนังสือเป็นเวลานาน
ใช้วัสดุปูพื้นไม้จริงหรือพื้นลามิเนตลายไม้จะช่วยเสริมบรรยากาศอบอุ่นและดูสวยงาม ขณะเดียวกันยังเลือกใช้พรมทอมือเล็กๆ เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลใต้เท้า
เสริมของตกแต่งอื่นๆ เช่น รูปภาพศิลปะ หรือโปสเตอร์หนังสือที่ชื่นชอบ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและให้ห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น
4. เฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่งอ่าน
ควรเลือกเก้าอี้ที่รองรับสรีระได้ดี มีพนักพิงและที่วางแขน เพื่อความสบายในระหว่างอ่านหนังสือที่ใช้เวลานาน เช่น เก้าอี้อ่านหนังสือแบบ Armchair หรือ Recliner หรือเสริมเบาะนุ่มและหมอนรองหลัง จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการเมื่อยล้า นอกจากนี้อาจมีผ้าห่มเล็กๆ สำหรับเพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาว และมองหาโต๊ะเล็กข้างเก้าอี้ สำหรับวางแก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ หรือโน้ตบุ๊ก รวมถึงแว่นตา จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
5. การจัดแสงที่เหมาะสม
การวางมุมอ่านหนังสือใกล้หน้าต่างจะได้รับแสงธรรมชาติในช่วงกลางวัน ช่วยลดการเพ่งสายตาและทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ต้องมีผ้าม่านบางๆ หรือมู่ลี่เพื่อกรองแสงที่จ้าเกินไป ส่วนแสงไฟสำหรับกลางคืนควรเลือกไฟโทนอุ่น เช่น ไฟ LED สีเหลืองนวล ที่ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและลดความตึงเครียดสายตา เลือกใช้ไฟตั้งโต๊ะหรือโคมไฟอ่านหนังส้าที่สามารถปรับทิศทางแสงได้ อาจจะเพิ่มมิติและความน่าสนใจ เช่น การติดไฟ LED ซ่อนที่ชั้นหนังสือ เพื่อให้หนังสือดูโดดเด่นยามค่ำคืน
6. การเพิ่มความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศ
หากต้องการแบ่งพื้นที่อ่านหนังสือให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือแยกโซนจากพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ สามารถใช้ฉากกั้นไม้ ฉากผ้า หรือชั้นหนังสือสูงกั้นเป็นธรรมชาติได้ หรือจะใช้วัสดุดูดซับเสียง เช่น ผ้าม่านหนา พรม หรือวัสดุปูผนังบางส่วน จะช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกและสร้างบรรยากาศสงบ
เพิ่มบรรยากาศและกลิ่น อาจจะเป็นกลิ่นหนังสือเก่า หรือกลิ่นเทียนหอมอ่อนๆ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือวานิลลา สามารถช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและเพิ่มความสุขในการอ่าน
7. การจัดเก็บและการดูแลรักษาหนังสือ
ห้องสมุดควรมีการระบายอากาศดี เพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อหนังสือ ควรจัดเรียงหนังสือตามประเภท ผู้เขียน หรือความถี่ในการอ่าน ช่วยให้หาหนังสือได้ง่ายและดูเป็นระเบียบ ใช้ที่วางหนังสือแนวตั้งหรือแผ่นรองเพื่อป้องกันหนังสือเสียรูปทรง หรือใช้กล่องเก็บหนังสือเก่าที่ไม่ค่อยได้ใช้
การสร้างมุมโปรดสำหรับคนรักหนังสือในบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของการวางชั้นหนังสือหรือเลือกเก้าอี้สวยๆ เท่านั้น แต่คือการสร้างบรรยากาศและพื้นที่ที่ตอบสนองความต้องการทางใจและร่างกายของผู้อ่าน การผสมผสานระหว่างฟังก์ชันใช้งาน ความสวยงาม และความสบายใจ จะทำให้มุมนี้กลายเป็นสถานที่พิเศษ ที่จะทำให้ทุกครั้งที่ได้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและเต็มไปด้วยความสุข
หากไม่มีไอเดียในการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงไม่มีไอเดียออกแบบทุกพื้นที่ภายในบ้านให้น่าอยู่อาศัย สามารถให้ทาง The precious เนรมิตให้ได้ โดยรองรับการให้บริการอย่างครอบคลุมภายใต้สโลแกนที่ว่า “Where dream come home” ซึ่งชำนาญในทุกเรื่องของงานออกแบบบ้าน ออฟฟิศ ตกแต่งภายในพร้อมบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการให้บริการแบบ Full Servuce’s ด้วยงานในระดับพรีเมี่ยม พร้อมงานก่อสร้างมาตรฐานสูงดีไซน์เฉพาะตัว
จากประสบการณ์ด้านการให้บริการลูกค้าครบวงจรนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ผ่านการแนะนำและบอกต่อความประทับใจจากลูกค้า วันนี้ the precious เติบโตและพัฒนาองค์กรเพื่อรองรับลูกค้าผู้มีเกียรติและรับสร้างบ้านคุณภาพในระดับสูงต่อไป เราขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกบริษัทรับออกแบบบ้านให้กับลูกค้าทุกท่านค่ะ
Where Dreams Come Home.
Youtube : ThePrecious
Tiktok : theprecioushome
Instragram : theprecious_interior
ความคิดเห็น